1. กำแพงเมืองจีน
กำแพงเมืองจีน เป็นกำแพงที่ใหญ่และยาวที่สุดในโลก ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชิวั่งตี่ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของจีน การสร้างกำแพงขึ้นนี้ก็เพื่อเป็นรั้วกั้นพรมแดนทางด้านเหนือของประเทศจีน และป้องกันการรุกรานของพวกตาด พระเจ้าชิวั่งตี่จึงได้เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 300-329 โดยใช้แรงงานราษฎรนับล้านคน และมีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก
ลักษณะสำคัญของกำแพงเมืองจีน เป็นกำแพงอิฐความสูงของกำแพงเท่ากับตึก 3 ชั้น ยาวประมาณ 1,500 ไมล์ (2,400 กิโลเมตร) กำแพงหนา 15 - 25 ฟุต บนกำแพงมีทางเดินกว้าง10 ฟุต ทุก ๆ 30 ฟุตจะมีหอหรือป้อมตรวจการ ป้อมตรวจการนี้จะสูงประมาณ 10 - 20 ฟุต ตลอดแนวกำแพงมีป้อมถึง 15,000 ป้อม มีระฆังแขวนบอกเหตุอีกประมาณ 20,000 กว่าหอระฆัง
ปัจจุบันกำแพงเมืองจีนได้รับการปรับปรุงจากรัฐบาลจีน เพื่อเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเที่ยวในประเทศจีน
2. ทัสมาฮาล
ทัชมาฮาล เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรัก สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1631 - 1648 รวมเวลาก่อสร้าง 17 ปี ใช้เวลาตกแต่ง 5 ปี รวมเวลาทั้งหมด 22 ปี ใช้งบประมาณในการสร้าง 30 ล้านรูปี คนงาน 20,000 คน
ทัชมาฮาลสร้างขึ้นโดยกษัตริย์ชาร์เจฮาน แห่งราชวังโมกุลเพื่อใช้บรรจุศพของพระนางมุมทัส มาฮาล ซึ่งเป็นมเหสีสุดที่รักของพระองค์ สถานที่ทำด้วยหินอ่อนภายในสุสานใต้โคมใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานหีบศพของพระนางมุมทัส และกษัตริย์ชาร์เจฮาน
3. ปราสาทหิน นครวัด - นครธม
ปราสาทหิน นครวัด - นครธม เป็นปราสาทหินที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดของขอม นครธมสร้างขึ้นก่อนนครวัด พอสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
- นครธม สร้างเมื่อประมาณ ค.ศ. 1345-1412 ในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และที่ 2 นครธมมีเนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 25,000 ไร่ ประกอบด้วยปราสาทซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามบริเวณต่างๆ ไม่น้อยกว่า 600 แห่ง ด้านนครธมเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีคูเมือง กำแพง ป้อมปราการสวยงามแข็งแรง สร้างด้วยหินในเนื้อที่ 5,000 ไร่ ปราสาทนครธมทุกยอดเป็นหน้าพรมเกือบทั้งหมดล้อมรอบด้วยปราสาทเล็ก มีชื่อเรียกต่างๆ เช่น ปราสาทแปรรูป ปราสาทแม่บุญ ปราสาทพายน เป็นต้น
- นครวัด เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นด้วยหินเช่นเดียวกับนครธม สร้างเมื่อประมาณ ค.ศ. 1643 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เป็นปราสาทหิน 8 ชั้น หรือ 3 ตอน ประกอบด้วยคูเมืองขนาดใหญ่มีเขื่อนก่อสร้างด้วยศิลาทั้ง 4 ทิศ มีสะพานหินใหญ่โต
นครวัด - นครธม สร้างด้วยฝีมือมนุษย์และการแกะสลักลวดลายลงบนหินสวยงามมาก ปัจจุบันนครวัด - นครธม ประดิษฐานอยู่ในประเทศสาธารณรัฐกัมพูชาประชาธิปไตย ห่างจากเมืองเสียมราฐประมาณ 8 กิโลเมตร
4.ปราสาทเขาพระวิหาร
ศาสนาสถานสำคัญที่เคยเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับประเทศกัมพูชา ด้วยความยิ่งใหญ่โอฬาริกที่เปรียบเสมือนสวนสวรรค์บนแดนดิน แม้กาลเวลาและสงครามจะทำให้ปัจจุบันคลับคล้ายเหมือนถูกทิ้งขว้าง หากเมื่อเปิดให้ชมอีกครั้งในปี 2541 ปราสาทเขาพระวิหารก็คึกคักอีกครั้งจากจำนวนผู้คนที่ไม่ย่นย่อต่อการไต่บันไดขึ้นสู่โคปุระ เพื่อชื่นชมลวดลายอันสลักเสลาของหน้าบันและทับหลังอันวิจิตร บ่งถึงฝีมือเอกอุของช่างโบราณที่นำพาให้สถานที่แห่งนี้ยังคงครองความตรึงตราตรึงใจไม่รู้คลาย
5. ปิรามิด
ปิรามิดแห่งเมืองกิซา ประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงไคโรเมืองหลวงของอียิปต์ไปทางทิศใต้ประมาณ 2-3 กิโลเมตร กลางทะเลทรายทางตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ปิรามิดแห่งเมืองกิซา จะมีอยู่ 3 องค์ คือ ปิรามิดซีเฟรน ปิรามิดไมเซอนิรุส และ ปิรามิดคีออปส์
ปิรามิดคีออปส์ เป็นปิรามิดที่ใหญ่ที่สุด เรียกว่า มหาปิรามิดสันนิษฐานว่า สร้างโดยพระเจ้าคีออปส์ หรือ พระเจ้ากูฟู ปิรามิดนี้สร้างด้วยหินยักษ์รวมกันประมาณ 2,500,000 ก้อน มีน้ำหนักตั้งแต่ 2 ตันถึง 15 ตัน ส่วนสูงเดิมสูง 481.4 ฟุต แต่ถูกกัดกร่อนพังลงเหลือ 450 ฟุต พื้นที่ทั้งหมดกว้าง 13.1 เอเคอร์ หรือ ประมาณ 20 ไร่ ฐานกว้าง 768 ฟุต รูปตรงเป็นกรวยสี่เหลี่ยมคว่ำใช้แรงงานไม่น้อยกว่า 100,000 คน ก่อสร้างนานถึง 10 ปี ปิรามิดองค์นี้สร้างเพื่อบรรจุศพของพระเจ้าคีออปส์ จัดอยู่ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
สฟิงซ์ เป็นสัตว์ประหลาดอยู่ในทะเลอียิปต์ เป็นรูปครึ่งคนครึ่งสัตว์ใบหน้าเป็นคน ตัวจะเป็นสิงโตสลักด้วยหินก้อนใหญ่ อยู่ในท่าหมอบเฝ้าปิรามิด มีขนาดสูงประมาณ 66 ฟุต ยาวประมาณ 240 ฟุต พระเจ้าซีเฟรนสร้างขึ้น อายุประมาณ 6,000 ปี
6.พระราชวังแวร์ซายส์
พระราชวังแวร์ซายส์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ระหว่าง ค.ศ. 1661- 1681 จุดประสงค์สำคัญในการสร้างก็เพื่อต้องการให้ชาวโลกเห็นว่า ความมั่นคั่งสมบูรณ์และความงามเลอเลิศที่สุดในโลกมารวมอยู่ที่ฝรั่งเศสทั้งหมด พระราชวังแวร์ซายส์สร้างด้วยหินอ่อนและตกแต่งอย่างวิจิตรพิสดาร ด้วยสิ่งประดับที่หาที่สุดมิได้ทั้งลวดลายการแกะสลักในไม้และหิน เครื่องเคลือบ เครื่องเงิน เครื่องทอง หินอ่อน และฝีมือชั้นเยี่ยมโดยใช้เงินในการสร้างเป็นหิน 500 ล้านฟรังค์
ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังมีความงามเป็นเลิศ ซึ่งฝรั่งเศสใช้เป็นสถานที่รับแขกเมืองการประชุมที่สำคัญระดับชาติ
7. สวนลอยกรุงบาบิโลน
สวนลอยกรุงบาบิโลน มีอายุประมาณ 4,000 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟติส สวนนึ้สร้างเหนือพื้นดิน บนพื้นที่กึ่งทะเลทรายก่อเป็นเนินสูงซ้อนกันเป็นชั้นๆ สูง 100 ฟุต แต่ละชั้นจะปลูกไม้ดอกไม้ประดับไว้เพื่อให้แลดูสวยงาม
สวนลอยกรุงบาบิโลนสร้างโดยพระเจ้าเนซูซาร์ Hammurabi (1792-1750 BC). เพื่อเป็นที่พักผ่อนของพระองค์ และพระมเหสี
ปัจจุบันสวนลอยแห่งนี้ได้พังทลายไปหมดแล้ว บาบิโลนปัจจุบันก็รวมเข้ากับประเทศอิรัก ห่างจากกรุงแบกแดด 50 กม. ไปทางตอนใต้ จัดอยู่ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
8. หอเอนปิซา The Leaning Tower of Pisa
หอเอนปิซา The Leaning Tower of Pisa ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี เป็นหอระฆังที่มีลักษณะเอียงเหมือนกับจะโค่นล้ม หอเอนปิซานี้สร้างด้วยหินอ่อนสูง 181 ฟุตมี 3 ชั้น เริ่มก่อสร้างเมื่อ ค.ศ. 1174 เสร็จปี ค.ศ. 1350 ใช้เวลาในการสร้างนานถึง 176 ปี
ภายในหออาซานจะมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายไว้อย่างสวยงามโดยจิตรกรชื่อดัง ส่วนสาเหตุที่เอียงนั้นเกิดขึ้นเมื่อสร้างเสร็จแล้วฐานทรุดไปข้างหนึ่ง วัดดูปรากฎว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานประมาณ 14 ฟุต แต่ก็ยังไม่ล้ม
9. อนุสาวรีย์อิสรภาพ
อนุสาวรีย์อิสรภาพ ตั้งอยู่บนเกาะลิเบอร์ตี้ ในบริเวณท่าเรือนครนิวยอร์ค รูปอนุสาวรีย์จะเป็นรูปสุภาพสตรีสาวในชุดเสื้อคลุม อยู่ในท่ายืนอย่างอิสระถือคบเพลิงอันหนึ่งชูไว้เหนือศีรษะ
ที่ประเทศฝรั่งเศสก็จะมีภาพจำลองขนาดเล็ก ของอนุสาวรีย์อิสรภาพตั้งเด่นอยู่เหนือแม่น้ำเซน ในนครปารีส ส่วนอนุสาวรีย์อิสรภาพของจริงตั้งอยู่เหนือบริเวณท่าเรือ ในนครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
10. กองหินปลาด
กองหินประหลาด ประกอบด้วยหินขนาดใหญ่จำนวน 112 ก้อน แต่ละก้อนทรงสูง บางก้อนวางอยู่บนยอดซ้อนกัน บางก้อนล้มนอน วงหินรอบนอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางคือ 100 ฟุต หินที่วางเรียงรายกันอยู่มี 30 ก้อน แต่ละก้อนสูงถึง 13 ฟุต มีน้ำหนักมาก
กองหินประหลาดตั้งอยู่กลางทุ่งนา แห่งเมืองซัสลิสเบอรี่ มณฑลวิลไซร์ ประเทศอังกฤษ ห่างจากกรุงลอนดอน ประมาณ 10 ไมล์
11. ฝาแฝดอิน- จัน
ฝาแฝดอิน - จัน เป็นฝาแฝดคนไทยที่ตัวติดกันคู่แรก ที่ชาวโลกรู้จักเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2354 ที่บ้านริมน้ำปากคลองแม่กลอง ต. แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม บิดาชื่อ นายทีอาย เป็นชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่ มารดาชื่อ นางนก มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันรวม 9 คน
แรกเกิด อิน-จัน จะมีร่างกายสมประกอบทุกอย่าง แต่ที่หน้าอกจะติดกัน มีสะดือเดียว ตอนแรกเกิดร่างทั้งสองสลับหัวกัน มารดาของเขาจึงจับหมุนให้หันหัวเท้าอยู่ในทิศทางเดียวกัน อินจะเป็นคนค่อนข้างเงียบ ใจเย็น เจ้าความคิด ส่วนจันใจร้อน เจ้าอารมณ์ ฉุนเฉียว ในวัยเด็กอายุได้ 8 ขวบ พ่อของอินจันเสียชีวิต อิน-จันจึงต้องมีหน้าที่ช่วยงานแม่ เลี้ยงเป็ดขายไข่
ปี พ.ศ. 2372 อิน-จัน มีอายุได้ประมาณ 18 ปี กัปตันคอฟฟิน และนายโรเบิร์ต ฮันเดอร์ เจ้าของเมืองมหรสพ เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ได้ขอตัวแฝดอิน-จัน จากแม่ของเขาเพื่อนำไปแสดงโชว์ที่ โรงมหรสพของเขา โดยอ้างกับมารดาของอิน-จันว่า เพื่อแนะนำให้ชาวโลกได้รู้จัก ซึ่งแม่ของแฝดอิน-จันตกลงและได้รับเงินจำนวน 1,600 บาท เป็นค่าตอบแทน แฝดอิน-จัน ถูกนำไปเปิดการแสดงโชว์ตัวตามประเทศต่าง ๆ ซึ่งทำรายได้ให้แก่กัปตันคอฟฟิน และนายโรเบิร์ต ฮันเดอร์ เป็นอย่างมากเมื่อแฝดอิน-จัน ไปแสดงที่ใดก็จะได้รับความสนใจอย่างมาก
ต่อมาในปี พ.ศ. 2375 เขาทั้งสองได้แยกตัวออกจากคณะมหรสพโดยเปิดการแสดงอย่างอิสระ ทำให้รายได้เพิ่มมากขึ้นจนมีฐานะร่ำรวย สามารถซื้อที่ดินทำนาทำไร่ ปลูกบ้านเป็นของตัวเองบนเนื้อที่ 150 เอเคอร์ ที่เมืองแทรปอินส์ และเขาได้ใช้นามสกุลว่า บังเกอร์ ของเฟรดและวิลเลี่ยม บังเกอร์ ซึ่งทั้งสองได้ให้ความนับถือ ต่อมาเขาได้หยุดการแสดงโชว์ และหันไปทำไร่ยาสูบจนประสบความสำเร็จ มีฐานะร่ำรวยขึ้น อายุได้ 31 ปี อิน-จัน ได้พบรักและ แต่งงานกับสองสาวคือ อิน บังเกอร์ กับมิสซาร่าเยสท์ อายุ 20 ปี ส่วนจัน บังเกอร์ กับมิสอาดิเลดเยสท์ อายุ 19 ปี โดยทั้งสองคู่ได้ทำพิธีแต่งงานที่โบสถ์เมธอดิสท์ ในวันที่ 13 เมษายน 2386 หลังจากแต่งงานทั้งคู่ได้มีบุตรคนแรกในเวลาไล่เลี่ยกัน อินมีบุตรสาวคนแรกคือ แคธเธอรีน เกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2387 จันก็มีบุตรสาวคนแรกคือ โจเซฟฟิน เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2387 ในปี 2387 อิน-จัน สร้างบ้านให้ภรรยาแยกกันอยู่คนละหลัง ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร และต้องผลัดไปอยู่บ้านแต่ละคน คราวละ 3 วัน ทั้งคู่มีลูกชาย - หญิง รวมกัน 21 คน
ปีพ.ศ. 2414 อิน-จัน มีอายุได้ 60 ปี จึงหยุดการแสดงโชว์ อินและจันเกิดป่วยเป็นอัมพาตซีกขวา อินทั้งดื่มสุราจัดด้วย จึงทำให้สุขภาพของจันเสื่อมโทรมลงไปด้วย แพทย์ตรวจพบว่าจันป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบ มีอาการรุนแรงและทรุดลงเรื่อย ๆ แต่เพราะข้อตกลงที่ทั้งสองมีต่อกัน ในการที่จะต้องไปอยู่บ้านภรรยาของแต่ละฝ่าย 3 วัน อิน-จัน นั่งรถม้าไม่มีประทุน เดินทางไปในขณะที่อากาศหนาวเย็นมาก จนทำให้จันมีอาการปอดบวมและเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ในวันที่ 17 มกราคม 2414 และอีก 2 ชั่วโมง ต่อมาอินก็เสียชีวิตตามจันไป
ขอขอบคุณ http://www.rmutphysics.com
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น